1. ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับตลาด Forex เพราะความรู้เป็นสิ่งสำคัญมาก หากต้องการประสบความสำเร็จแบบยั่งยืนในตลาด Forex (ในเว็บไซต์ Forex.co.th มีเนื้อหาความรู้เกี่ยวกับตลาด Forex มากมายไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น)

2. เปิดบัญชีซื้อขายในตลาด Forex กับโบรกเกอร์ เช่น exness.com, fbs.co.th, xm.com สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่แนะนำให้เปิดบัญชีทดลองเทรด หรือบัญชี Demo ก่อน

3. เมื่อเปิดบัญชีเรียบร้อยแล้ว ให้โหลดโปรแกรม MetaTrader4 เพื่อทำการซื้อขาย เนื่องจากว่าการซื้อขายในตลาด Forex ต้องซื้อขายผ่านโปรแกรม MT4 (หากเปิดบัญชีซื้อขายที่โบรกเกอร์ Exness ให้โหลดโปรแกรม MetaTrader4 ของ Exness มา)

4. เมื่อทำทั้ง 3 ข้อเรียบร้อยแล้ว ได้เวลาฝึกฝนเทรดในตลาดจริง สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่แนะนำฝึกฝนโดยใช้บัญชีทดลองเทรด หรือบัญชี Demo ก่อน

5. เมื่อเทรดในตลาดจริง ผลลัพธ์จะออกมา 2 ฝั่ง คุณพร้อมที่จะอยู่ฝั่งซ้ายหรือฝั่งขวาได้ทุกเมื่อ

6. ไม่ว่าในข้อ 5. คุณจะอยู่ฝั่งซ้ายหรือขวา คุณต้องศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ หากอยู่ฝั่งที่มีน้ำตาคุณยังต้องกลับมาทบทวนฝึกฝนใหม่แต่เทรดเดอร์บางรายเมื่อตกอยู่ในฝั่งเสียน้ำตา ก็เลิกเทรด Forex ไปเลยก็มี และถ้าหากคุณอยู่ฝั่งถือเงินคุณก็อยังต้องศึกษาหาความรู้อยู่เสมอเพื่อก้าวเข้าสู้นักเก็งกำไรที่ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน

7. หาความรู้จากหนังสือ ตำรา ทฤษฎีเพียงอย่างเดียวไม่พอ ต้องอาศัยประสบการณ์อีกด้วย คุณยังคงต้องเทรดในตลาดจริงอยู่เสมอ ดังนั้น จึงอยากแนะนำให้ฝึกฝนโดยใช้บัญชีทดลองเทรด หรือบัญชี Demo ก่อน เพราะคุณจะได้ไม่ต้องเสียเงินลงทุนไปโดยที่คุณยังไม่ชำนาญพอ

8. ผลลัพธ์จะออกมา 2 ฝั่ง คุณจะอยู่ฝั่งซ้ายหรือฝั่งขวาได้ทุกเมื่อ เหตุการณ์จะวนแบบนี้อยู่เรื่อยๆ คุณยังคงต้องกลับมาศึกษาพร้อมกับเก็บประสบการณ์อยู่เสมอ ทำให้ชีวิตของเทรดเดอร์ของคุณจะวนอยู่ที่ข้อ 5-8

สรุป
เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จในตลาด Forex ไม่ใช่เทรดเดอร์ที่ไม่มีการขาดทุนเลย แต่คือเทรดเดอร์ที่ขาดทุนอย่างชาญฉลาดและไม่ยอมแพ้ ไม่ว่าจะขาดทุนกี่ออร์เดอร์หรือได้กำไรกี่ออร์เดอร์ แต่ภาพรวมของพอร์ตลงทุนของเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จต้องเป็นกำไรเพื่อที่จะอยู่รอดในตลาด Forex ได้ต่อไป แต่ทุกอย่างต้องใช้เวลา เพราะในตลาด Forex ต้องอาศัยทั้งความรู้และประสบการณ์จึงจำเป็นต้องใช้เวลาค่อนข้างยาวนานในการศึกษาและเก็บประสบการณ์ แต่จงจำไว้ว่า “ความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นแค่ภายในข้ามคืน แต่ผลของมันหอมหวานเสมอ”